การทำการตลาดในปัจจุบันเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการตลาดในรูปแบบ Digital marketing เองก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจ การเข้าถึงลูกค้าจากช่องทางที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น SMS , LINE หรือ รูปแบบ EMAIL ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธิ์ทางการตลาดที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ แต่ช่องทางการตลาดรูปแบบไหนล่ะที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด SMS2PRO ขอแนะนำให้รู้จักกับทั้ง 3 ช่องทางหลัก SMS , LINE และ EMAIL

ประโยชน์ของการทำการตลาดผ่าน Digital Marketing
แน่นอนว่าทุกๆ platform ของเครื่องมือทางการตลาดนั้นมีประโยชน์ต่อธุรกิจในตัวของมันเอง แต่ข้อดีของแต่ละรูปแบบก็จะแตกต่างกันออกไป มีความเหมาะสมกับธุรกิจที่แตกต่างกัน

การตลาดผ่านช่องทาง SMS
รูปแบบการตลาดผ่าน SMS เป็นหนึ่งในกลยุทธิ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว สะดวกและ การลงทุนต่ำ

SMS2PRO หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการ SMS Gateway ขอแนะนำให้ทราบถึงประโยชน์ในการเลือกใช้บริการ SMS Marketing

ลงทุนเริ่มต้นเพียง 0.18 บาท
สามารถวัดผลทางการตลาดได้อย่างแม่นยำ เพราะมี Report รายงานผลแบบ Real time
อัตตราการเปิดอ่านสูงถึง 98%
สามารถส่งข้อมูลการตลาดหาลูกค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องมีฐานข้อมูล (กรณีของ Location-based marketing )
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลที่ต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมง (อ้างอิงจากแบรนด์ SMS2PRO)
อัตราการคลิกสูง 19%
ไม่จำเป็นต้องใช้ Internet เป็นปัจจัยหลัก ใช้เพียงสัญญาณโทรศัพท์ก็สามารถส่งข้อความหาลูกค้าได้
สามารถตั้งเวลาส่งข้อความหาลูกค้าได้ล่วงหน้า
ในกรณีที่ข้อความส่งไปไม่ถึงลูกค้า สามารถเรียกคืนเครดิตได้
* อ้างอิงจาก https://sms2pro.com/ *

การตลาดผ่านช่องทาง LINE
ต้องยอมรับว่า Line application มีบทบาทสำคัญต่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในเรื่องของการติดต่อสื่อสารหรือการทำการตลาด ด้วย Function ที่หลากหลายและรูปแบบ Design ที่ทันสมัยเป็นเอกลักษณ์ทำให้ได้รับความนิยมเป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารอันดับต้นๆของเรา

แม้แต่ในด้านธุรกิจ LINE เองก็มีบทบาทหลักในการเป็นดั่งเครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าได้สะดวกมากขึ้น และมีจุดเด่นที่หลายคนสนใจดังนี้

ไม่จำกัดผู้ติดตามจึงสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างไม่จำกัด
เริ่มต้นใช้งานการส่งข้อความฟรี 1000 ข้อความ
สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง
ด้วย Function ที่สามารถตั้งข้อความตอบรับอัตโนมัติ เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าได้ทันที
ระบบคูปองส่วนลดและบัตรส่วนลด ที่ช่วยส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
ระบบสถิติข้อมูลเชิงลึก แสดงข้อมูลเป็นแผนภาพกลุ่มลูกค้าที่ตอบสนองต่อคอนเทนต์ที่คุณส่งไป เพื่อวัดผลความสนใจของลูกค้าต่อธุรกิจของคุณ
การตลาดผ่านช่องทาง EMAIL
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Email เป็นช่องทางการสื่อสารที่คุณสามารถส่งข้อความหาคนที่คุณต้องการได้โดยไม่ข้อจำกัดในด้านระยะทาง ต่อให้ลูกค้าของคุณจะอีกซีกโลกหนึ่งคุณก็สามารถส่งข้อความหาพวกเขาได้โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องระยะเวลา

สิ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้รับบริการว่าจะเลือกการตลาดรูปแบบ Email คือข้อได้เปรียบต่างๆดังนี้

สามารถส่งอีเมล์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบหน้าเว็บ (html) ข้อความ และอื่นๆ
สามารถส่ง E-Mail ได้ไม่จำกัดจำนวนลูกค้า
สามารถติดตามและประเมินการส่ง E-Mail ได้อย่างละเอียด โดยบอกได้ว่า E-Mail ที่ส่งไปนั้น ถึงผู้รับกี่ฉบับ และมีผู้รับเปิดดูกี่ฉบับ
สามารถออกแบบรูปแบบของข้อความได้ เพิ่มสีสัน เตะตาเตะใจผู้รับ E-Mail
มีระบบลงทะเบียนเพื่อเก็บ Respond จาก E-Mail Marketing
ในทุกๆช่องทางการทำการต่างมีรูปแบบและข้อดีที่แตกต่างกันที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการทุกคน SMS2PRO หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจถึงข้อดีของทั้ง SMS, LINE และ EMAIL มากขึ้น และเลือกใช้กลยุทธิ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์กับรูปแบบธุรกิจของตัวเองได้มากที่สุด

สำหรับใครที่มีความสนใจด้าน เทรนด์ในการทำงาน คงเคยได้ยิน เทรนด์การทำงาน ที่ชื่อว่า “Quiet Quitting” เทรนด์การทำงานของหมู่คนรุ่นใหม่ และยังเป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคอนเซ็ปต์ของการทำงานแบบ Quiet Quitting คือ การไม่ทำงานนอกเวลางาน และไม่ทำการที่นอกเหนือจากงานที่ตัวเองไม่ได้ถูกจ้างและไม่ได้ค่าตอบแทนอะไร แต่การทำงานลักษณะนี้ยังคงมีการตั้งข้อสงสัยกันเป็นอย่างมาก ว่าตอบโจทย์ในการด้านความก้าวหน้าในการทำงานหรือไม่? ด้วยเหตุนี้จึงมีเทรนด์ใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า FatFIRE ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ตรงกันข้างกับ Quiet Quitting โดยสิ้นเชิง วันนี้ SMS2PRO จะพาทำความรู้จักความหมายและสไตล์การทำงานแบบ FatFIRE ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

ความหมายของคำว่า FatFIRE
คำว่า Fire นั้นสามารถถอดความออกมาได้ 2 ความหมาย ดังนี้

FI ย่อมาจาก Financial Independence หรือ อิสระทางด้านการเงิน คือ การที่คุณมีเงินเก็บหรือทรัพย์สินมากพอเพื่อให้คุณมีอิสรภาพในการใช้ชีวิตตามที่ตนเองต้องการ โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับรายได้ในการจ้างงาน
RE ย่อมาจาก Retire Early หรือ การเกษียณตัวเองให้เร็วที่สุด
ส่วนคำว่า Fat นั้น หมายถึง ความสมบูรณ์ในทุกด้าน ซึ่งจะได้รับจากการ FIRE หรือ การมีอิสรภาพทางการเงินที่สามารถทำให้เราเกษียณก่อนอายุได้

Mindset แบบ FatFIRE ต่างจาก Quiet Quitting อย่างไร?
กลุ่มคนที่ทำงานแบบ Quiet Quitting ไม่จำเป็นต้องรักงาน อาชีพ หรือหัวหน้างานของพวกเขา คนกลุ่มนี้ต้องการออกจากพื้นที่ทำงานให้ได้เร็วที่สุด เพื่อแสดงหาความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตหรือการทำงาน (Work-Life Balance) ซึ่งลักษณะการทำงานสไตล์ Quiet Quitting จะทำงานให้น้อยที่สุดตามหน้าที่ความรับผิดชอบหรือภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ในทางกลับกัน Mindset แบบ FatFIRE กลับสนับสนุนการมุ่งสู่ความร่ำรวยหรือมีเงินเก็บมากตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้ตัวเองได้เกษียณจากการทำงานได้เร็ว และมีอิสรภาพในการเงิน

สไตล์การทำงานแบบ FatFIRE Mindset คือ?
ลักษณะของกลุ่มคนที่ทำงานแบบ FatFIRE คือ ยินดีที่จะทุ่มเทเวลาและความพยายามในการทำเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือทำงานให้ได้มากที่สุดตามหน้าที่ความรับผิดชอบหรือตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย หลังจากนั้นจะออกไปใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ และเกษียณอายุในขณะที่อายุยังน้อย คนเหล่านี้มักจะทำงานในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ บริษัทกฎหมายที่มีอำนาจสูง เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ อาชีพที่ได้ค่าประกันหรือค่าชดเชยจำนวนมาก หรืออาชีพที่ได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นหุ้น ก

สไตล์การใช้เงินแบบ FatFIRE
กลุ่มคนพวกนี้จะประหยัดมัธยัสถ์สุดๆ เพื่อให้ตัวเองมีเงินเก็บเยอะมากที่สุด และจะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดสกุลเงินดิจิทัล สร้างธุรกิจ และความเร่งรีบเล็กน้อย เพื่อให้เงินงอกเงยอีกทาง

FatFIRE คิดง่าย แต่ทำได้ยาก
กลุ่ม FatFIRE จะสร้างความเครียดในการทำงานให้กับตัวเองในระยะสั้น โดยหวังว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลทางการเงินในภายหลัง ไม่ว่าจะจากการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนอื่นๆที่พวกเขาได้เจียดเงินที่ได้จากการทำงานประจำไปลงทุน อย่างไรก็ตาม อนาคตไม่แน่นอนด้วยอัตราเงินเฟ้อที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อัตราดอกเบี้ยสูง ภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และความวุ่นวายทางการเมือง หากคุณดูบันทึกทางประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้น คุณจะเห็นว่ามีช่วงเวลาที่เฟื่องฟู ทรงตัว และการล่มสลาย ตัวอย่างเช่น วิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในปี 2551 หุ้นตกต่ำและเศรษฐกิจตกต่ำ ในทำนองเดียวกัน อสังหาริมทรัพย์และการลงทุนอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนมหาศาลก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน

ข้อเสียของ FatFIRE การมีเงิน 5-10 ล้านบาทอาจดูเหมือนจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่อาจจะไม่พอหากคุณมีอายุจนถึง 90 ในระหว่างที่เกษียณงานออกมาใช้เงิน และมีรายได้จากเงินลงทุนนั้น คุณอาจจะพบเจอปัญหาที่เกิดขึ้นได้เช่น คุณอาจตื่นตระหนกเนื่องจากการตกต่ำของตลาดหุ้นและขายออกที่จุดต่ำและขาดทุนจำนวนมาก ข้อตกลงทางธุรกิจอาจไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ หรือเงินที่ได้กลับมาอาจจะไม่ได้ตามที่คิดหรือแม้กระทั่งขาดทุน การเจ็บป่วยร้ายแรงหรือเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้งอาจทำให้คุณถึงขั้นล้มละลายก็เป็นได้ การหย่าร้างที่ขัดแย้งกันและต้องมีการแบ่งปันรายได้ และความโชคร้ายต่างๆ อาจทำให้ Fat หรือความอุดมสมบูรณ์ที่คุณมีนั้นลดลงอย่างมาก

หากสถานการณ์เลวร้ายลง คุณอาจต้องกลับเข้าสู่การทำงานประจำ อาจเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากคุณเลิกจ้างงานมาหลายปีแล้ว ทักษะของคุณอาจเสื่อมถอย และคุณไม่ได้ติดตามความก้าวหน้าใหม่ๆ ผู้สัมภาษณ์งานอาจจะมีความคิดว่าจ้างคุณมาไม่นานเดี๋ยวก็ลาออก และไม่เลือกจ้างงานคุณ

เป็นยังไงกันบ้างคะพอจะมองเห็นข้อดีและข้อเสียของ FatFIRE กันบ้างไหม? หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และมีส่วนช่วงในการตัดสินใจว่าคุณจะเลือกทำงานสไตล์ Quiet Quitting หรือ FatFIRE เพื่อตอบโจทย์ชีวิตคุณมากที่สุด

สุดท้ายนี้ SMS2PRO ขอฝากบริการ SMS Service ที่มีทั้งบริการ SMS OTP ระบบสร้างรหัสสำหรับยืนยันตัวตนผ่านมือถือ เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของ Website และธุรกิจของคุณ, SMS MKT ส่งข้อความจำนวนมากถึงมือลูกค้าคุณได้ง่ายๆ ทุกเวลา, SMS location based (LBS) บริการกำหนดส่งข้อความถึงลูกค้าในพื้นที่ทั่วประเทศไทย ตามที่คุณต้องการ, รวมถึง SMS API เชื่อมต่อกับ หลังบ้านของคุณง่ายๆ ติดต่อขอคำแนะนำกับเราได้ที่ Line @sms2pro

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.personio.com/hr-lexicon/quiet-quitting/

https://money.usnews.com/money/retirement/aging/articles/what-is-fatfire

หนึ่งในจุดเด่นของการทำ SMS Marketing ก็คือ การรักษาฐานลูกค้า และกระจายโปรโมชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการการ Repurchase สูงอย่างธุรกิจเสริมความงาม

บทความนี้ SMS2PRO จะมาแนะนำ 4 เคล็ดลับเพื่อยกระดับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เสริมยอดขายให้กับธุรกิจเสริมความงาม จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย!

4 วิธีการใช้ SMS Marketing เพื่อธุรกิจเสริมความงาม
สำหรับธุรกิจเสริมความงามแล้ว การรักษาฐานลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจึงมักจะเห็นหลายๆ ที่มีโปรโมชันเป็นแพคเกจแบบเหมา เช่น “ฉีดวิตามินผิว 10 ครั้ง ราคา XXXX บาท” ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

โดยเคล็ดลับการใช้ SMS Marketing ที่เราจะแนะนำในบทความนี้ เหมาะสำหรับธุรกิจเสริมความงามหลากหลายประเภท เช่น

คลินิกดูแลรักษาผิว
ร้านทำผม ซาลอน
บริการเสริมความงาม ต่อขนตา ทำเล็บ
บริการกำจัดขนส่วนเกิน

คลินิกศัลยกรรมเพื่อรักษาฐานลูกค้า ดึงดูดให้พวกเขากลับมาใช้บริการซ้ำ และสร้างโอกาสเพิ่มยอดขาย เราจะขอแนะนำเทคนิคจากการใช้ SMS Marketing ดังนี้

รักษาฐานลูกค้า เพิ่มอัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำ
SMS Marketing นั้นสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และมีอัตรา Open Rate ที่เรียกได้ว่าสูงมากเลยทีเดียว จึงเหมาะสำหรับการกระจายโปรโมชันไปยังฐานลูกค้าเดิมที่เคยใช้บริการแล้ว เพื่อกระตุ้นให้เขากลับมาใช้บริการซ้ำอีก เช่น

โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า กลับมาใช้บริการซ้ำลดทันที 15%
ลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า เพียงกรอกโค้ด DISCOUNT15 บนเว็บไซต์ ลดทันที 15% คลิกเพื่อรับส่วนลด Beautyclinic.com
โปรฯ พิเศษเฉพาะเดือนกรกฎาคม ลดราคาทุกรายการ 10% สำหรับลูกค้าเก่าลดเพิ่มอีกเป็น 20% หมดเขตวันที่ 31 กรกฎาคม 2022 นี้เท่านั้น!
ส่งข้อความพิเศษแบบ Personalized Message
แพลตฟอร์ม SMS Marketing นั้นสามารถ Setting ข้อความสำหรับส่งหาลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ คุณจึงสามารถส่ง Personalized Massage หรือ ข้อความเฉพาะบุคคล เพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นคนสำคัญ และจดจำแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น เช่น

โปรโมชั่นประจำเดือนเกิด
โปรโมชั่นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับบริการที่เป้าหมายเคยซื้อ
เปิดตัวสินค้าหรือบริการใหม่
อยากที่ได้บอกไปว่าการทำ SMS Marketing นั้นเป้าหมายจะมีโอกาสเปิดข้อความอ่านสูงมาก จึงเหมาะสำหรับการนำเสนอบริการ หรือสินค้าใหม่ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนข้อความที่ส่งได้ค่อนข้างจำกัด จึงอยากแนะนำว่าให้ส่งเป็น SMS เพื่อให้เป้าหมายคลิกเข้าไปอ่านต่อที่เว็บไซต์จะดีที่สุด หรืออาจจะวิเคราะห์ Personalization เพื่อเช็คว่าเป้าหมายไหนที่น่าจะสนใจสินค้านี้เป็นพิเศษก็จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกเข้าไปดูสินค้าได้

แจ้งเตือนการนัดหมาย คอร์สใกล้หมดอายุ หรือคะแนนสะสม
บริการเสริมความงามหลายๆ แห่งนั้นมักจะขายบริการเป็นคอร์สแบบเหมาะ ซึ่งแพลตฟอร์ม SMS Solution นั้นสามารถสร้างความสะดวกในจุดได้ด้วยบริการ SMS Alert โดยจะทำการแจ้งเตือนตามที่คุณตั้งค่าไว้ เช่น

แจ้งเตือนการนัดหมายเข้าใช้บริการ
แจ้งเตือนจำนวนครั้งที่เหลือของคอร์ส และวันหมดอายุ
แจ้งเตือนจำนวนแต้ม หรือคะแนนสะสมที่มี
บริการเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก ซึ่งความสะดวกเองก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ได้เช่นกัน จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้

สรุป
เท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้เห็นกันแล้วว่าเคล็ดลับการทำการตลาดในรูปแบบของการส่ง SMS สำหรับธุรกิจเสริมความงามต่างๆ นั้นมีอะไรบ้าง แนะนำว่าให้เอาเคล็ดลับที่เราแนะนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ Digital Marketing อื่นๆ รับรองว่าจะยิ่งมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มเพื่อทำ SMS Marketing เพื่อต่อยอดธุรกิจ ขอแนะนำ SMS2PRO แพลตฟอร์ม SMS Solution ครบวงจรในราคาเริ่มต้นเพียง 0.18 บาทต่อข้อความ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SMS2PRO | บริการส่ง SMS และ OTP ผ่านเว็บไซต์ ราคาถูก

บริการ SMS OTP เป็นอีกหนึ่งในบริการที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็จะต้องให้มีความปลอดภัยไว้ก่อน เนื่องจากบนระบบออนไลน์มีมิจฉาชีพเยอะมาก หากไม่มีการยืนยันตัวตนแบบสองชั้นผ่าน OTP อาจจะเกิดการถูกหลอกลวง และขโมยข้อมูลได้ง่าย ผู้ประกอบการทั้งหลายจึงควรมีระบบ SMS OTP ให้กับลูกค้าด้วย ซึ่งมีเหตุผลอะไรบ้างที่คุณควรใช้บริการนี้ เรามาดูกันเลย

สำหรับเหตุผลที่คุณควรใช้บริการ OTP ก็มีดังต่อไปนี้

1.สร้างความน่าเชื่อถือ
เว็บไหนที่มีบริการ OTP เว็บนั้นจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการทำ SMS marketing มากขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะเกิดความไว้วางใจ และมั่นใจมากขึ้นว่าจะไม่มีปัญหาจากการใช้บริการกับทางเว็บแน่นอน

2.เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้า
บริการ OTP จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการยืนยันตัวตนแบบสองขั้น แม้จะล็อกอินเข้าระบบสมาชิกแล้ว แต่การจะสั่งซื้อสินค้า จ่ายเงิน หรือทำธุรกรรมการเงินอะไรบนเว็บได้ต้องผ่านการยืนยันด้วย SMS OTP ก่อน จึงยากที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

3.ป้องกันการสแปมได้
ในแง่ข้อดีของทางพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ให้บริการเอง ก็จะได้รับประโยชน์จากการทำระบบ OTP ด้วยเช่นกัน นั่นคือจะช่วยป้องกันการสแปมได้ เพราะจะต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียนและรับรหัสยืนยัน จึงไม่สามารถใช้เบอร์เดิมเพื่อสมัครสมาชิกซ้ำเข้ามาได้อีก ลดความเสี่ยงพวกก่อกวนมาลงทะเบียนซ้ำหลายๆ ครั้ง หรือป้องกันการลงทะเบียนปลอมได้เป็นอย่างดี

ใช้บริการ SMS OTP กับ SMS2PRO สิ ดีแน่นอน
ได้รู้เหตุผลที่ควรใช้บริการ SMS OTP กันไปแล้ว หากคุณอยากจะใช้บริการนี้และไม่รู้ว่าจะใช้บริการกับที่ไหนดี ก็ต้องนี่เลย SMS2PRO ผู้ให้บริการที่ดีที่สุด โดยมีบริการส่ง SMS เพื่อทำการตลาดที่มีคุณภาพแบบมือโปร สามารถสร้างยอดขายให้กับคุณได้อย่างดีเยี่ยม โดยการใช้บริการกับที่นี่จะดีอย่างไรบ้างนั้นก็ต้องมาดูกันเลย

สามารถกำหนดรูปแบบของข้อความที่ต้องการให้ส่งไปได้ โดยจะสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจของคุณเอง ทำให้กลุ่มลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้น
กำหนดระยะเวลาได้ว่าต้องการให้รหัสหมดอายุภายในกี่นาที แต่ก็ไม่ควรจะนานเกินไป เพื่อป้องกันการถูกแอบเอารหัสมาใช้
คุณไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเลย เพราะทาง SMS2PRO จะดำเนินการทุกอย่างให้กับคุณเอง แค่นอนรอดูการรายงานผลจากการส่ง SMS OTP เท่านั้น
มีความรวดเร็วเป็นอย่างมากในการส่งข้อความถึงลูกค้า โดยจะส่งภายใน 1-3 วินาที ทันทีที่ลูกค้ากดทำรายการบนเว็บ ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในความรวดเร็วที่ตอบโจทย์ได้ดีสุดๆ
มีการเชื่อมต่อแบบ SSL ที่สร้างความปลอดภัยให้กับการส่งข้อความ OTP ได้เป็นอย่างดี พร้อมปกป้องข้อมูลของลูกค้าอย่างแน่นหนา ให้คุณสบายใจได้เลย และทำให้ลูกค้าหมดกังวลไปอีกด้วย
ใช้งานง่ายด้วยระบบ API แถมยังครอบคลุมทุกเครือข่ายได้เป็นอย่างดี โดยจะส่งข้อความ OTP ให้กับลูกค้าทุกคนได้โดยไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะใช้ซิมเครือข่ายไหนก็ตาม
ทำอย่างไรถ้าจะใช้บริการกับ SMS2PRO
หากคุณต้องการใช้บริการกับ SMS2PRO ก็เข้ามาซื้อแพคเพจบนเว็บได้เลย โดยมีให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เลือกตามความต้องการและตอบโจทย์กับงบประมาณมากที่สุด ซึ่งนอกจากบริการ OTP แล้ว ก็ยังมีการรับส่ง SMS จากบริการอื่นๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าครบครันในเรื่องของการตลาด ที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ 2499 บาท ถูกและดีแบบนี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด

SMS OTP เป็นบริการสำคัญที่ธุรกิจส่วนใหญ่ควรจะมี โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขาย ธุรกิจที่มีการเก็บข้อมูลสำคัญๆ เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขโมยข้อมูล หรือมีการสวมรอยเข้ามาใช้บริการได้ ซึ่งหากธุรกิจของคุณมีบริการ SMS OTP ให้กับลูกค้าละก็ เชื่อได้เลยว่าจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันมากขึ้นอย่างแน่นอน

อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ก้าวเข้าสู่ปี 2024 อย่างเป็นทางการ หลายเว็บไซต์เริ่มทยอยอัพเดต เทรนด์การตลาดใหม่ สำหรับปี 2024 กันแล้ว SMS2PRO เองก็ต้องเริ่มอัพเดตการทำการตลาดออนไลน์ที่มาแรงในปี 2024 กันบ้างแล้ว ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เริ่มต้นวางกลยุทธ์ทำการตลาดให้ไม่ตกเทรนด์คนอื่นเขากัน

7 เทรนด์การตลาดแห่งอนาคตของปี 2024
จากข้อมูลที่เราได้รวบรวมมานั้น เทรนด์การตลาดที่สุดแห่งปี 2024 ที่ทุกธุรกิจควรให้ความสนใจและเริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2023 มีอะไรบ้าง ไปดูกัน

เทคโนโลยี AI รุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2024 นี้ เทคโนโลยีที่มาแรงก็คงไม่พ้น AI เทรนด์การตลาดที่ใช้ AI นั้นมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นจากทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการ เพื่อทำการตลาดที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

การใช้ AI เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย และทำ Customer Journey เป็นการลดภาระงานที่ซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดขึ้น ทั้งช่วยวิเคราะห์และจำแนกลูกค้าออกเป็นกลุ่ม หรือการทำนายพฤติกรรมของลูกค้าว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหน
การนำระบบ AI มาใช้เพื่อรวบรวมและเก็บข้อมูลในเชิงลึก เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดยเฉพาะ การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing
บทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของ Chatbot ในการทำ Customer service อำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ซึ่งในปัจจุบัน การพัฒนา Chatbot นั้นไวขึ้น จากการพิมพ์สนทนาธรรมดา ถูกพัฒนาไปสู่ Voicebot (ใช้เสียงสั่งการแทน) เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการสนทนากับลูกค้าที่ง่ายขึ้น
ด้วยข้อดีมากมาย ทำให้ เทรนด์การตลาดด้วย AI จึงเป็นที่จับตามองและมาแรงมากในปี 2024 แต่อย่างไรก็ตาม ทุกธุรกิจก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและลิขสิทธิ์ด้วยเช่นกัน

Video Marketing and Short Form Content หรือการใช้วีดิโอสั้นเพื่อโฆษณา
ความจริงแล้ว Video Content ได้รับความนิยมมาตั้งนานมากแล้ว และเริ่มโดดเด่นและมีการแพร่หลายอย่างมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มอย่างเช่น Youtube Short, TikTok และแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

โดยลักษณะของเทรนด์การตลาดรูปแบบนี้คือ เน้นความกระชับและสนุกสนาน สอดแทรกเกร็ดความรู้และสาระของสินค้าหรือบริการลงไปเพียงเล็กน้อย

หลายคนอาจจะคิดว่า เทรนด์การตลาด รูปแบบนี้ไม่เหมาะกับตนเอง เนื่องจากการตัดต่อวีดิโอสัก 1 คลิปเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อน แต่ในปปัจจุบันมีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกมากมายในการตัดต่อคลิปวีดิโอสักคลิป เช่น Canva, Inshot, Capcut หรือใช้เครื่องมือสำเร็จที่ติดมากับแอพลิเคชั่นอย่าง TikTok เลยก็ได้

เครื่องมือ Market Research ที่ช่วยทำการตลาด Social Listening
Social Listening คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, TikTok, Twitter, Instagram หรือ Blog ต่างๆ เพื่อดูว่าในเวลานั้นๆ มีใครพูดถึงแบรนด์ไปในทิศทางใดบ้าง ซึ่งเครื่องมือนี้ นักการตลาดนิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะครอบคลุมทุกการกล่าวถึงอย่าง การแสดงความคิดเห็น (Comment) การกล่าวถึง (Mention), การมีส่วนร่วม (Engagement) หรือแม้แต่การติด #Hashtag ผ่านโพสต์ต่างๆด้วย

เทรนด์การตลาด Social Listening เป็นประโยชน์ต่อการทำการตลาดอย่างมาก คุณสามารถเก็บข้อมูลที่ได้แล้วนำมาวิเคราะห์ต่อ ทำให้การทำการตลาดนั้นมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นตามไปด้วย

เทรนด์การตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalization Marketing)
แม้จะไม่ใช่ปี 2024 แต่เทรนด์การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลนั้นถูกนำมาใช้นานแล้ว การใช้กลยุทธ์นำเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับบุคคลที่ได้มาจากการรวบรวมข้อมูลลูกค้า และวิเคราะห์ออกมา

การตลาดรูปแบบนี้มีจุดประสงค์คือการมีส่วนร่วมกับลูกค้า การทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงแบรนด์และเพิ่มจำนวนของผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าขึ้น โดยกลยุทธ์แบบนี้เรามักจะเห็นกันบ่อย เช่น การส่งSMS Marketing เพื่อการโฆษณาโปรโมชั่น หรือสิทธิ์พิเศษต่างๆ

หากเริ่มสงสัยว่า ทำไมเทรนด์การตลาดอย่าง SMS ยังไม่หมดไปในปี 2024 อีก คำตอบก็คือ อัตราการเปิดอ่านข้อวาม SMS นั้น มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 90% และยังมีต้นทุนในการเริ่มใช้บริการที่ต่ำ ไม่ถึง 1 บาทต่อข้อความ และยังสามารถแยกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ผลิตข้อความที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละกลุ่มบุคคลได้ เพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าได้สูงกว่า ดังนั้น หลายธุรกิจจึงยังคงให้ความสนใจการใช้ SMS Marketing อยู่เหมือนเดิม

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SMS Marketing ได้ที่ : https://sms2pro.com/services/SMS-marketing/

การตลาดผ่านรูปแบบค้นหาเสียง และการตลาดที่เน้นการสนทนา
ในปี 2024 การพัฒนาของระบบต่างๆ จะยิ่งก้าวหน้ามากขึ้น การตลาดที่เน้นการสนทนา Chatbot หรือการให้บริการลูกค้าผ่านระบบ AI เช่น Siri จะมีความซับซ้อนและสำคัญมากกว่าเดิม จนกลายมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญต่อการตลาดดิจิตัลที่นักการตลาดทั้งหลายจะต้องให้ความสนใจ

ตัวอย่างการใช้เทรนด์การตลาดที่ใช้การสนทนา หรือค้นหาด้วยเสียง

Siri ของ IOS เป็นที่รู้จักกันดีว่า siri เป็น AI ผู้ช่วยที่เสมือนจริง สามารถตอบคำถามหรือค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ใช้งานต้องการได้อย่างรวดเร็ว
Alexza ของ Amazon เป็นอีกแบรนด์ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าโดยการสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียง ผสมผสานกับ AI ได้อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้ง และเพิ่มความประทับใจได้มาากขึ้น
ธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มหันมาสนใจการใช้ Chatbot ในการทำธุรกิจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะในบทบาทของผู้ช่วยในด้านข้อมูล หรือการเป็น Customer Service เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

การตลาดที่มีความยั่งยืนและจริยธรรม
ต้องยอมรับว่าการซื้อสินค้าหรือบริการของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผู้บริโภคนั้นจะมุ่งเน้นการให้ความสำคัญไปที่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก พวกเขาเหล่านั้นจะตระหนักถึงประโยชน์ของสิ่งของ และมองไปถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมของแบรนด์นั้นๆ ด้วย

เทรนด์การตลาดแบบนี้แพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก เราจะเห็นได้ชัดว่า แบรนด์เครื่องสำอางค์หลายแบรนด์เริ่มทำการโฆษณาว่าสินค้าของตัวเองนั้น ไม่ผ่านการทดลองในสัตว์ กันมากขึ้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่แบรนด์ของคุณถูกกล่าวถึงในแง่ลบที่เกี่ยวกับจริยธรรม ก็จะส่งผลเสียต่อธุรกิจทันที เช่น SHEIN ที่ครั้งหนึ่งเคยออกข่าวการละเมิดสิทธ์ บังคับใช้แรงงานสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ในขณะนั้น ยอดขายของของแบรนด์ SHEGLAM ที่เป็นแบรนด์ลูกโดนผลกระทบตามไปด้วย

ด้วยเหตุเหล่านี้ การตลาดที่มีความยั่งยืนและจริยธรรมจึงเป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญเทียบเท่ากับการทำการตลาดรูปแบบอื่นๆ ในปี 2024

Virtual Reality (VR) & Augmented Reality (AR)
บทบาทของ VR และ AR ในการตลาดดิจิทัล 2024 นั้นจะขยายความสำคัญมากขึ้น เข้ามาเปลี่ยนแปลงในด้านการทำธุรกิจที่จะเพิ่มประสบการณ์การมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ด้วยการแสดงภาพสินค้าที่มีความเสมือจริง และการโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AR เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

ตัวอย่างประสบการณ์ของการใช้ AR และ VR

Application AR ของ IKEA เป็นการแสดงภาพสินค้าที่เสมือนจริงของอุปกรณ์ตกแต่งบ้านต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ามองภาพออกว่า ถ้านำไปตกแต่งแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร
M.A.C Cosmetics แบรนด์เครื่องสำอางค์ชื่อดังระดับโลก กับแคมเปญ M·A·C Virtual Try-On ที่จะช่วยให้กลุ่มลูกค้า และผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า ได้ลองสีลิปสติกง่ายๆ ที่บ้านผ่านหน้าจอมือถือ เพื่อให้ทำการตัดสินใจก่อนว่า สีลิปสติกรุ่นไหน เฉดสีไหนที่เหมาะ ก่อนจะเดินทางออกมาซื้อ หรือสั่งซื้อผ่านออนไลน์
ทั้งหมดนี้ที่กล่าวมานั้นคือ เทรนด์การตลาดปี 2024 ที่เราได้รวบรวมมาเพื่อนักอ่านและนักการตลาดทุกท่าน SMS2PRO หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อใครสักคนในการดำเนินธุกิจในปีใหม่ที่จะถึงนี้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมากที่สุด

แหล่งที่มาของข้อมูล :

เว็บไซต์ iplandigital

เว็บไซต์ insightera

เว็บไซต์ ลงทุนแมน