Property 1=DefaultProperty 1=Default (1)Property 1=Default (2)Property 1=Default (3)Property 1=Default (4)Property 1=Default (5)Property 1=Default (6)

การกระตุ้นให้ลูกค้ามีความสนใจในสินค้าและบริการมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจทำกันเพื่อเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับธุรกิจนั้นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากนั่นคือ การทำอย่างไรถึงจะกระตุ้นยอดขายได้ บทความนี้ เราขอเสนอการเพิ่มยอดและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วยการใช้ Bulk SMS ทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

การเพิ่มยอดขายด้วย Bulk SMS ทำอย่างไรถึงจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
การใช้ Bulk SMS เป็นวิธีหนึ่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการติดต่อลูกค้า หรือสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนมากในธุรกิจของคุณ SMS2PRO ขอนำเสนอ 5 วิธีในการใช้ Bulk SMS เพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้อย่างรวดเร็ว

1.ใช้ Bulk SMS เพื่อส่งโปรโมชั่นพิเศษ
คุณสามารถใช้ Bulk SMS เพื่อส่งข้อความ SMS พร้อมโปรโมชั่นพิเศษแก่ลูกค้าหรือข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดสำหรับสมาชิกหรือลูกค้าบางกลุ่ม โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1หรือโปรโมชั่นที่จัดขึ้นแบบมีระยะเวลากำหนด เป็นต้น โดยวิธีนี้เป็นการส่งเสริมการขายและกระตุ้นความสนใจของลูกค้ารูปแบบหนึ่งที่ได้ผลดี

2.นำเสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ
ใช้ Bulk SMS เพื่อแนะนำสินค้าหรือบริการใหม่ๆ และความสามารถใหม่ๆ ของธุรกิจของคุณ เพื่อความน่าสนใจและโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น

3.ใช้ Bulk SMS ในการยืนยันการสั่งซื้อ
คุณสามารถส่งข้อความ SMS ยืนยันการสั่งซื้อของลูกค้า และแจ้งสถานะการส่งสินค้าเมื่อเสร็จสิ้น เป็นการสร้างความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าให้กัยลูกค้า และเพิ่มความรวดเร็วในการสั่งซื้อสินค้าได้

4.ส่งข้อความแจ้งเตือนด้วย Bulk SMS
ส่งข้อความ SMS เพื่อแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญ เช่น การชำระเงินหรือการรับสินค้า ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าธุรกิจของคุณนั้นมีการดูแลอย่างใกล้ชิด กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและไว้วางใจแล้วกลับมาซื้อสินค้ากับคุณอีก

5.ส่ง Bulk SMS เพื่อเชิญชวน
การใช้ Bulk SMS ส่งข้อความ SMS ไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมของทางแบรนด์ หรือแม้แต่การเชิญชวนให้เข้ามาดูสินค้าและบริการก็สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่ม Engagement ได้เป็นอย่างดี

Bulk SMS ใช้อย่างไร มีค่าใช้จ่ายหรือไม่
คุณสามารถใช้ Bulk SMS เพื่อส่งข้อความหากลุ่มเป้าหมายที่จำนวนมากของคุณได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้งานผ่านระบบของผู้ให้บริการอย่าง SMS2PRO เชื่อมต่อง่าย สะดวกต่อการทำการตลาด เพราะคุณสามารถจัดกลุ่มเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ และมีการรายงานผลของการส่ง SMS แบบเรียลไทม์เพื่อใช้ต่อยอดวางแผนในเชิงการตลาดต่อได้

ค่าใช้จ่ายต่ำสุดอยู่ที่ 0.18 บาทเท่านั้น! แถมมีบริการหลังการขายที่พร้อมจะช่วยเหลือและตอบคำถามของคุณตลอด

การใช้ Bulk SMS เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มยอดขายของธุรกิจหรือสินค้าของคุณ ด้วยความสะดวกสบายในการส่งข้อความไปยังผู้ใช้งานมือถือหลายพันคนพร้อมกัน และด้วย 5 วิธีเพิ่มยอดขายที่เราได้แนะนำไปก็ยิ่งช่วยให้ Bulk SMS นั้นเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากและวัดผลได้

การตลาดในปี 2023 นี้มีการแข่งขันกันสูงมาก ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย ทำให้บริษัทและองค์กรต่างๆต้องหากลยุทธ์หรือการทำการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในยุคการตลาดดิจิทัล ที่มีการทำตลาดหลากหลายช่องทาง แต่ยังมีการทำการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า SMS Marketing ซึ่งการทำการตลาดรูปแบบนี้ จะเป็นการนำเสนอสินค้า,บริการและโปรโมชั่นต่าง ด้วยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ของลูกค้า และตรงกลุ่มเป้าหมาย บริการส่ง SMS ในการทำการตลาดรูปแบบนี้ ยังคุ้มค่าต่อการลงทุนในแต่ละครั้งด้วย ข้อดีจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

ข้อดีของการส่ง SMS
หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้ ต้นทุนการทำตลาดต่ำและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่ม บริการ SMS Marketing คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามมากที่สุด มาดูกันว่าการทำการตลาดในรูปแบบนี้จะส่งผลดีกับแบรนด์ของคุณอย่างไร

เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม
ข้อดีข้อแรกของการส่ง SMS คือสามารถทำให้สินค้าบริการของคุณเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย จากการที่เรามีฐานข้อมูลลูกค้าอยู่ในมือทำให้การส่ง SMS นั้น ส่งตรงถึงมือลูกค้าแน่นอนและแม่นยำ และรวดเร็วกว่าการทำตลาดออนไลน์ การใช้ SMS Marketing ยังช่วยทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย

ช่วยรักษาฐานลูกค้า
อีกหนึ่งข้อดีจากการใช้บริการส่ง SMS ยังสามารถช่วยให้แบรนด์รักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะการส่งข้อความหาลูกค้าเดิม ซึ่งช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนสำคัญของแบรนด์ และกลายเป็นฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นของแบรนด์ในที่สุด

กระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้
การใช้ SMS Marketing นั้นสามารถกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งส่วนลดหรือ QR Coupon ที่สร้างขึ้นเพื่อแคมเปญนั้นๆ โดยเฉพาะ ทำให้อัตราการกลับมาซื้อสินค้าและบริการซ้ำนั้นสูงขึ้น

แจ้งโปรโมชันได้ทั้งแบบกลุ่มและบุคคล
แบรนด์สามารถเลือกส่งข้อความไปตามกลุ่มเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการส่งแบบบุคคล (1-1) หรือแบบกลุ่ม (1- Many) ทำให้ง่ายต่อการคัดสรรข้อความที่จะเหมาะสมและโดนใจเฉพาะกลุ่มคนได้ เพราะลูกค้าเองก็มีความชอบและความสนใจที่หลากหลาย การใช้ SMS Marketing จะทำให้การส่งข้อความของคุณมีประสิทธิภาพ และดึงดูดใจลูกค้าได้มากขึ้น

ใช้งานง่ายๆ ผ่านระบบ
ทุกอย่างจะง่ายมากขึ้นเพียงคุณเลือกใช้บริการส่ง SMS ออนไลน์ผ่านผู้ให้บริการอย่าง SMS2PRO เพราะคุณสามารถตั้งค่าทุกอย่างได้ตามความต้องการของคุณไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาภายในข้อความ กลุ่มผู้ติดต่อ และชื่อผู้ส่งของคุณ ผ่าน Web Application บนมือถือหรือ tablet ได้

ต้นทุนต่ำ ประหยัดได้มากกว่า
การใช้ SMS เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสามารถส่งข้อความได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการตลาดรูปแบบอื่น เพิ่มประสิทธิภาพของ SMS Marketing ได้อย่างเต็มที่ และสามารถนำผลมาดูและวิเคราะห์ต่อยอดได้จริง

เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น ถึงเวลาที่องค์กรของคุณควรที่จะเริ่มหันมาใช้ SMS Marketing แล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านของการตลาดและเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ให้กว้างขึ้น

SMS2PRO ผู้นำด้านบริการส่งSMS ส่งข้อความจำนวนมาก คุณภาพสูง
ช่องทางการติดต่อ
Line: @SMS2PRO
Tel: 021148318

แม้ว่ากลยุทธ์การตลาดออนไลน์อย่าง อีเมล การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา(SEO) และการตลาดโซเชียลมีเดียจะมีประโยชน์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ แต่ช่องทางการตลาดผ่านช่องทางเหล่านี้คงไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องจาก Gmail, Google และ Facebook ได้ใส่คุณลักษณะและอัลกอริทึมใหม่เข้ามาแทนที่ ทำให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาทำการตลาดผ่าน SMS ในบทความนี้ SMS2PRO ได้รวบรวม เหตุผล 7 ประการว่าทำไมแคมเปญ SMS ถึงยังคงมีประสิทธิภาพ

1. อัตราการเปิดข้อความ SMS สูงที่สุดเทียบกับอัตราการเปิดข้อความบนช่องทางอื่นๆ
อัตราการเปิดข้อความ SMS นั้นสูงถึง 98% เทียบกับอัตราการเปิดอีเมลโดยเฉลี่ยอยุ่ที่ 27.86% เปอร์เซ็นต์ การเข้าถึงโพสต์ธุรกิจบน Facebook โดยไม่ต้องโฆษณาคือ 2.6% ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ธุรกิจ บน google หากเว็บไซต์ของคุณไม่ติดห้าอันดับแรกของ Keyword หลักๆ อัตราการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณนั้นน้อยกว่า 5% ของปริมาณการค้นหารายเดือนของคำหลักนั้น ซึ่งหมายความว่ามีลูกค้าเพียงสองใน 100 รายเท่านั้นที่อาจพลาดข้อความของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ

2. เจ้าของโทรศัพท์มือถือจะได้รับการแจ้งเตือนทันทีเมื่อได้รับข้อความ SMS
มีสองสิ่งที่คุณสามารถรับได้ทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น - การโทรและข้อความ วิธีการสื่อสารทั้งสองนี้มีความสำคัญมากจนเป็นช่องทางที่ผู้คนมักได้รับการแจ้งเตือนมากที่สุด ในหลายกรณีนี้คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกค้าเปิดข้อความของคุณด้วยซ้ำ เนื่องจากข้อความจะกะพริบโชว์ (message previews) บนหน้าจอล็อกของโทรศัพท์มือถือ

สำหรับผู้ที่ไม่มีตัวอย่างข้อความ SMS บนหน้าจอล็อก พวกเขามักจะได้รับข้อความจากแบนเนอร์พร้อมข้อความบนหน้าจอหลัก หรือไอคอนตราสัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่ ดังนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งพวกเขาจะรู้ว่าข้อความกำลังรอพวกเขาเปิดอ่านอยู่

3. ผู้คนมีแนวโน้มที่จะคลิกลิงก์ที่ได้รับทาง SMS มากขึ้น
ผู้คนไม่ได้เปิดเพียงแค่ข้อความของคุณ แต่พวกเขายังมีแนวโน้วที่จะคลิกลิ้งบนข้อความนั้นอีกด้วย การส่ง SMS สามารถเพิ่ม CTR rate บนเว็บไซต์ได้ถึง 19% เปรียบเทียบกับ CTR rate อยู่ที่ 5.65% สำหรับอีเมล ซึ่งหมายความว่าผู้คนไม่เพียงแต่เห็นข้อความของคุณ แต่พวกเขากำลังดำเนินการกับข้อความเหล่านั้น

สิ่งที่ดีที่สุดคือการคลิกเหล่านั้นสามารถนำไปสู่การสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ สองในสามของผู้บริโภคที่สมัครรับข้อความการตลาดบนมือถือรายงานว่าพวกเค้ามักจะสั่งซื้อสินค้าเมื่อคลิ้กเข้าไปที่ลิ้งบนข้อความ SMS

4. คุณไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับอัลกอริทึม (Algorithms) หรือตัวกรอง (Filters)
การตลาดผ่าน SMS ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับอัลกอริธึม (algorithms) ตัวกรองสแปม (spam filters) ตัวกรองการส่งเสริมการขาย (promotional filters) เมื่อส่งข้อความถึงลูกค้าของคุณ ข้อความที่คุณส่งจะถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของพวกเขาทันที แน่นอนว่าสิ่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า นี่คือเหตุผลที่คุณต้องใช้ประโยชน์จากการตลาดผ่าน SMS โดยเร็วที่สุดในธุรกิจของคุณเพื่อให้เข้าถึงได้มากที่สุด

5. เมื่อลูกค้ายินยอมรับข้อความ SMS จากคุณ พวกเขาคาดหวังให้คุณขายสินค้าหรือบริการให้กับพวกเขา
ต่างจากช่องทางการตลาดอื่นๆ ที่ลูกค้าของคุณอาจไม่ได้คาดหวังให้คุณส่งข้อมูลข่าวสารหรือมีส่วนร่วมกับพวกเขา ผู้ที่สมัครรับข้อความ SMS คาดหวังว่าจะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษและส่วนลด

6. ใครๆ ก็เขียนข้อความ SMS ดีๆ ได้
ผู้คนคาดหวังว่าจะพบเนื้อหายาวเหยียดบนเว็บไซต์ของคุณ หรือแม้แต่ในอีเมลของพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขาคาดหวังว่าว่าข้อความ SMS ที่พวกเขาจะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ หรือข้อมูลสำคัญเท่านั้น ดังนั้นข้อความ SMS ที่คุณส่งถึงลูกค้าควรสั้นและน่าฟังดังนั้น ใครๆ ก็เขียนข้อความดีๆ สำหรับกลยุทธ์การตลาดผ่าน SMS ได้ เป้าหมายของข้อความของคุณคือให้พวกเขาคลิกลิงก์หรือเดินเข้าไปในร้านของคุณ โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสิ้นค้าของคุณผ่าน SMS นั้นขึ้นอยู่กับหน้า Landing Page และการบริการของพนักงานในร้าน

7. ค่าใช้จ่ายในการส่ง SMS แต่ละครั้งถูกมาก
ขึ้นชื่อว่าส่งSMS หลายคนติดภาพกับคำโฆษณาโปรโมชั่นที่ผูกมากับค่าโทรศัพท์รายเดือน ค่าใช้จ่าย SMS ละ 1.50 บาท แต่กับการส่ง SMS แบบนี้ค่าใช้จ่ายต่อข้อความนั้นจะถูกลงไปอีก ยิ่งมีจำนวนการส่งที่สูง ค่าใช้จ่ายจะยิ่งต่ำลง อ้างอิงจาก SMS2PRO เริ่มต้นการส่ง SMS Marketing อยู่ที่ 499 บาท เท่านั้น ! เป็นราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่สูง

สรุป
อย่างที่คุณเห็น การตลาดผ่าน SMS อาจเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจของคุณ อย่าลืมเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่การส่งข้อความกับ SMS2PRO ที่สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าของคุณผ่านการส่งข้อความที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ

การมอบดีลหรือโปรโมชั่นสุดพิเศษคงไม่เพียงพอ หากผู้อ่านของคุณไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร การใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ หรือ Call-to-Action (CTA) ในการ ทำการตลาดสามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านตัดสินใจทำอะไรบางอย่างทันที เช่น คลิกปุ่ม โทรขอรับคำปรึกษาฟรี หรือการทดลองใช้งานฟรี การกระทำเหล่านี้เป็นการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยน "ผู้ที่มีโอกาสซื้อ" หรือ Potential customers ให้กลายมาเป็น "ลูกค้า" ที่ซื้อสินค้าหรือบริการจริง

ก่อนที่จะแนะนำ กลยุทธ์ Call-to-Action เรามาทำความรู้จักกับ ความหมายของ Call-to-Action กันก่อนดีกว่า

Call-to-Action คือ?
ในด้านการตลาด Call-to-Action คือ คำกระตุ้นการตัดสินใจ ของผู้อ่านให้พวกเขาดำเนินการทำอะไรบางอย่างทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดที่บอกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณว่าพวกเขาควรทำอะไร หลังจากอ่านเทนต์โฆษณาเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์บนหน้าเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ของคุณ ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดของคำกระตุ้นการตัดสินใจคือ “ซื้อเลย!”

ยิ่งคุณสามารถให้ข้อมูล CTA กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากเท่าใด ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นที่พวกเขาจะตัดสินใจดำเนินการทันที เช่นการแนะนำรายละเอียดราคา หรือแพ็คเกจ ควบคู่กับการใส่ Call-to-Action “ซื้อเลย!” การให้ข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ผู้อ่านรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาคลิกที่ปุ่มนั้นๆ

วันนี้ SMS2PRO ขอนำเสนอ 7 กลยุทธ์ Call-to-Action อย่างไร ให้ได้ผลมากที่สุด

1. ใช้คำ Call-to-Action มากกว่าหนึ่งจุด
คำ Call-to-Action มักพบบ่อยที่สุดในส่วนท้ายของคอนเทนต์การตลาด (ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เว็บไซต์ หรือบล็อก) เช่น “ติดต่อเราวันนี้เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม” เนื่องจากเป็นการทำ Call-to-Action ที่ง่ายที่สุด อย่างไรก็ตาม นอกจากการใช้คำ Call-to-Action ดังตัวอย่างข้างต้น การใช้คำ CTA แทรกในเนื้อหาของคุณอย่างเป็นธรรมชาติอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อบอกผู้อ่านว่าต้องทำอะไรต่อไป เป็นการเพิ่มโอกาสให้ Call-to-Action ได้ผลมากยิ่งขึ้น

2. ตำแหน่งที่เหมาะสมในการใส่ Call-to-Action
ครึ่งหน้าบน: ใส่ CTA ครึ่งหน้าบน ในหน้าแรกของเว็บไซต์ หน้าขายสินค้า หรือหน้าเนื้อหาอื่นๆ คำว่า "ครึ่งหน้าบน" มีต้นกำเนิดในอุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์ซึ่งมีข่าวและพาดหัวข่าวที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ด้านบนของหน้า ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเมื่อพับกระดาษและวางซ้อนกันเพื่อขาย การวาง CTA “ครึ่งหน้าบน” บนหมายถึงการวาง CTA ในที่ที่สามารถมองเห็นได้ทันทีโดยไม่ต้องเลื่อน

บนสุดหรือล่างสุดของหน้า: การใช้ปุ่ม Call-to-Action เช่น ปุ่ม "Get started" หรือ "Learn More" ที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าสามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกเพื่อดำเนินการได้ทันที

ด้านข้างหรือขอบริมของหน้า: คุณสามารถใส่ปุ่มลงทะเบียนหรือข้อเสนอต่างๆ ที่ด้านข้างของเนื้อหาของคุณ ซึ่งผู้อ่านจะสามารถมองเห็นได้ตลอดการเลื่อนขึ้นและเลื่อนลง

ตำแหน่ง เหนือส่วนท้าย: การใส่คำ CTA ท้ายหน้า หากพวกเขาได้อ่านจนจบหน้า นั่นหมายความว่าพวกเขามีความสนใจเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณ ดังนั้นการใส่ Call-to-Action ด้านล่างเนื้อหาเช่น "ติดต่อเราทันที!" "ขอรับคำปรึกษาฟรี" "ทดลองใช้ฟรี" หรือ "ดูแพ็คเกจและราคา" ช่วยให้ผู้อ่านมีโอกาสคลิกมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาเพิ่งอ่านข้อมูลเสร็จหมาดๆ และข้อมูลนั้นๆยังสดใหม่อยู่

3. รู้ว่าเมื่อไหร่ใช้ Call-to-Action มากเกินไป
แม้ว่ากลยุทธ์การใช้ Call-to-Action มากกว่า 1 จุด จะเพิ่มโอกาสให้ผู้อ่านดำเนินการทันทีได้มากกว่า แต่ระวังการใส่ Call-to-Action โดยรวมที่มากเกินไป อาจทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์รู้สึกว่าเนื้อหาของคุณไม่เป็นธรรมชาติ hard sell และไม่จริงใจ และหาก CTA ทั้งหมดมีลักษณะแตกต่างกันอาจทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนได้

4. อธิบายข้อเสนออย่างชัดเจน
บอกลูกค้าของคุณอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะได้รับอะไรเมื่อพวกเขาคลิกที่ปุ่ม Call-to-Action ของคุณ อย่าเพิ่งพูดว่า "ขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจของคุณทันที" ทำให้ชัดเจนว่าคำปรึกษานั้นเป็นประเภทใด เช่น ด้าน Offline หรือ online marketing, ด้าน Working Processes, หรือด้านเทคนิคการขาย เป็นต้น และคำปรึกษาที่ผู้อ่านจะได้รับเมื่อ คลิกที่ ปุ่ม Call-to-Action จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถแก้ไขปัญหาของพวกเขาได้อย่างไร

เนื้อหาที่น่าสนใจเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง แต่ในทางกลับกันก็เป็นดาบสองคมหากเนื้อหาของคุณไม่ระบุรายละเอียดชัดเจน หรือมีความลึกลับ ที่ทำให้ผู้อ่านไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาอยู่ การต้องติดต่อหรือคลิกหลายขั้นตอนมากเกินไปเพื่อหาคำตอบนั้นๆ อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหนื่อย หมดความตื่นเต้น หมดความน่าสนใจหรือความอยากรู้เกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆและกดปิดหน้าเพจของคุณในทันที

5. ทำให้ Call-to-Action ของคุณหาง่าย
CTA ที่ซ่อนอยู่หรือหายากจะไม่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า CTA ของคุณหาได้ง่ายบน Layout ของเพจ เช่น ใส่ปุ่ม "โทรทันที" ไว้ข้างหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถกดโทรออกหรือติดต่อคุณได้ทันที อย่าซ่อนไว้บนหน้าย่อยๆที่ต้องทำให้ผู้อ่านค้นหาหลายครั้ง

สรุปง่ายๆ
- วาง CTA ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนบนหน้าเพื่อให้มองเห็นได้ง่ายและรวดเร็ว

- ใส่กรอบหรือปุ่มที่มีขนาดใหญ่พอที่จะสังเกตุเห็นได้ง่าย

- ใช้สีตัดกันที่ทำให้ปุ่มและองค์ประกอบ CTA อื่นๆ ของคุณโดดเด่นกว่าพื้นหลังของหน้า

- รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้ใน CTA หรือข้างๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล

6. จัดลำดับความสำคัญ Call-to-Action ของคุณ
โปรดจำไว้ว่า CTA ทั้งหมดไม่ได้มีลำดับความสำคัญเท่ากัน คำกระตุ้นการตัดสินใจ ที่กระตุ้นให้ลูกค้า "ซื้อเลย!" จะมีลำดับความสำคัญสูงกว่า CTA อื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้อ่านจะเห็น CTA ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดนั้นได้ง่ายที่สุด

7. ใช้ CTA ที่สอดคล้องกับข้อมูลที่นำเสนอ
คำกระตุ้นการตัดสินใจ ควรสอดคล้องกับเนื้อหาที่คุณนำเสนอไปเช่น หลังจากที่คุณได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริการ อธิบายถึงสิ่งที่คุณจะทำ และสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากบริการของคุณแล้ว คุณอาจจะใส่กรอบกรอก Email ด้านล่าง พร้อมข้อความ "ให้เราช่วยวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของธุรกิจคุณ กรอกอีเมลล์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปภายใน 24 ชั่วโมง" พร้อมด้วยปุ่ม "ส่ง" หากคุณใส่กรอบกรอก Email ด้านล่าง "พร้อมด้วยปุ่ม "ส่ง" โดยปราศจากข้อมูลเกี่ยวกับบริการของคุณ​หรือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อกรอกอีเมลล์ ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าก็จะไม่มีทางดำเนินการในขั้นต่อไปได้เลย ซึ่งก็คือการให้ข้อมูลติดต่อที่สำคัญทั้งหมดแก่คุณ

คำเตือน!! หาก คำกระตุ้นการตัดสินใจ นี้คือการดาวน์โหลดไฟล์ มันจะเป็นการเปลี่ยนหัวเรื่องอย่างกะทันหันและสับสน เช่น หากคุณกำลังเขียนบล็อกโพสต์เกี่ยวกับเทคนิคการทำการตลาดสำหรับธุรกิจยานยนต์ปี 22 อย่าใส่ CTA ที่เกี่ยวกับการซื้อขายยานยนตร์ในบทความ

เนื่องจากผู้ซื้อหันมาใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อให้ความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น เว็บไซต์ของบริษัทจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในการดึงดูดความสนใจ สร้างความสนใจ และสร้างโอกาสในการขาย วิธีดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า เช่นการสร้าง Call-to-Action ที่นี่สนใจจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างสร้างความสนใจในตัวสินค้า

ข้อมูลอ้างอิง :

https://anga.co.th/marketing/what-is-cta/

What is a Call-to-Action? Examples and Reasons to Use Them in Marketing Strategies

การทำการตลาดในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดศูนย์กลางนั้น เครื่องมือที่นักการตลาดเลือกมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย และเข้า
ถึงเป้าหมายนั้นเป็นเรื่องสำคัญต่อธุรกิจมาก ซึ่งเครื่องมือในการกระจายข่าวสาร และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วคง
หนีไม่พ้น Line Broadcast และ Bulk SMS

Bulk SMS และ Line Broadcast แตกต่างกันอย่างไรพูดให้ถูกทั้ง
Bulk SMS และ Line Broadcast นั้นต่างเป็นเครื่องมือในการทำ Marketing ในรูปแบบข้อความเหมือนๆ กัน สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็น
ได้ชัดมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องของยุคสมัย

SMS นั้นมีอยู่มานาน และเป็นหนึ่งใน Feature ที่ติดอยู่บนโทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมแชทรุ่นแรกๆ ของ
ยุคก็ว่าได้แต่ในทางกลับกัน Line Broadcast นั้นถือกำเนิดต่อมาจากโปรแกรมแชทอย่าง Line ที่พัฒนาขึ้นเพื่อชิงจุดเด่นในเรื่อง
ของการทำ Marketing เนื่องจากผู้คนนั้นต่างใช้ Line ในการสื่อสารมากขึ้น และเรียกได้ว่า ในปัจจุบันแทบจะไม่มีใครที่ไม่ใช้
Application นี้เลย แต่ก็ใช่ว่า SMS จะไม่ถูกใช้แล้ว การส่งข้อความยังมีประสิทธิภาพอยู่เป็นอย่างมากในปัจจุบัน ดังนั้นการทำการ
ตลาดผ่านช่องทางการส่ง SMS เช่น การส่งข้อความแสดงความขอบคุณหรือแสดงความ Loyalty รวมถึงข้อความแจ้งเตือน
โปรโมชั่นต่างๆ ก็ยังใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีนักการตลาดหลายคนที่ยังคงสนใจกลยุทธ์นี้อยู่เหมือนกันหลายคนอาจจะ
เริ่มอยากทราบแล้วว่า Bulk SMS นั้นแตกต่างจาก Line Broadcast อย่างไร การเปรียบเทียบระหว่าง Bulk SMS และ
Line Broadcast สามารถทำได้โดยพิจารณาด้านต่างๆ เหล่านี้

1. ประเภทของแพลตฟอร์ม
Bulk SMS หมายถึงการส่งข้อความกลุ่มใหญ่โดยใช้ Platform เฉพาะตัวผ่านเว็บไซต์ผู้ให้บริการ เช่น SMS2PRO เป็นการ
ส่งข้อความที่ต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าในรูปแบบของเบอร์มือถือ
Line Broadcast หมายถึงการส่งข้อความหรือข้อมูลผ่าน LINE ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันการสื่อสารที่มีความนิยมในประเทศ
หลายแห่ง การส่งข้อความในรูปแบบนี้ ผู้ใช้งานจะต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าในรูปแบบของ Line account และต้องใช้งานผ่าน
LINE Official Account หรือ LINE Business Account.
2. การเข้าถึงผู้รับ
Bulk SMS ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือและผู้รับไม่จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชันเพิ่มเติม เพื่อเปิดใช้งาน SMS 
บนโทรศัพท์มือถือของตน.
การสื่อสารผ่าน Line Broadcast จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชัน LINE ซึ่งผู้รับต้องมี LINE ID และติดตาม Official Account
หรือ Business Account ของผู้ส่งข้อความ

3. รูปแบบข้อความ
รูปแบบข้อความของ Bulk SMS นั้นก็คือข้อความทั่วไปที่เราจะได้รับผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งผู้ส่งสามารถแนบลิงค์ลงไปใน
ข้อความได้ เพื่อให้ลิงค์ไปยังเว็บไซต์หรือแปพลิเคชั่นอื่นๆ ตามต้องการ
Line Broadcast สามารถส่งข้อความข้อความที่รวมรูปภาพ, วิดีโอ, ข้อความที่เรียบเรียง, และติดตามลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือ
แอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้

4. การตรวจสอบการส่ง
Bulk SMS สามารถตรวจสอบสถานะการส่ง SMS ได้จากรายงานการส่งแบบ real-time ซึ่งผู้ส่งสามารถตรวจสอบได้ว่า
ข้อความที่ส่งไปนั้น มีอัตราการส่งถึงอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ และอัตราการส่งไม่ถึงเนื่องจากผู้รับไม่ประสงค์รับข้อความทาง SMS
กี่เปร์เซ็นต์
LINE มีระบบการรายงานแบบ real-time ที่แสดงสถานะการส่งและการอ่านข้อความ, ทำให้คุณทราบได้ว่าข้อความถูกส่งถึง
ผู้รับและถูกเปิดอ่านหรือไม่

5. ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการส่ง Bulk SMS นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการส่งของผู้ใช้ โดยผู้ให้บริการอย่าง SMS2PRO มีอัตราค่าใช้จ่ายที่ให้
บริการแก่ผู้ที่สนใจจะส่ง SMS ต่ำสุดอยู่ที่ 0.18 บาท ต่อ เครดิต มีอายุการใช้งานสูงสุดอยู่ที่ 3 ปี ดีต่อผู้ใช้งานตรงที่ หากใช้
เครดิตไม่หมด คุณสามารถเก็บไว้ใช้ในครั้งหน้าได้โดยไม่ต้องซื้อแพคเกจเพิ่มเติม จนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน
การใช้ LINE Broadcast นั้นจะมีค่าบริการเป็นแบบรายเดือน ซึ่งค่าบริการสูงที่สุดของ LINE Broadcast ต้องเสียค่าบริการ
1,500 บาท/เดือน สามารถส่งข้อความได้ทั้งหมด 35,000 ข้อความ/เดือนและถ้าหากส่งข้อความเกินจำนวนจะต้องเสียค่า
บริการเพิ่ม 0.04 บาท ต่อข้อความ

6. การเป้าหมายและการใช้งาน
Bulk SMS บางครั้งใช้สำหรับการแจ้งเตือน, การตลาด, หรือการสื่อสารระหว่างองค์กร รวมไปถึงการส่ง SMS เพื่อยืนยัน
ตัวตนเข้าสู่ระบบหรือธุรกรรมต่างๆ ที่เป็นข้อมูล sensitive
Line Broadcast มักใช้สำหรับการสื่อสารแบบกลุ่ม, การโฆษณา, การสื่อสารกับลูกค้า, หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในบริบททางธุรกิจ

ข้อความ Bulk SMS และ Line Broadcast มีความแตกต่างในการเข้าถึงและการใช้งาน ดังนั้นคุณควรพิจารณาวัตถุประสงค์
และปริมาณการสื่อสารของคุณเพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะกับความต้องการของคุณในแต่ละกรณี.

ที่อยู่
บริษัท อีเอ็กซ์พี ซิสเต็ม จำกัด เลขที่ 143/666 ชั้น 3 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

ช่องทางติดต่อ
call
02 - 114 - 8318  
Property 1=Default (6)
@sms2pro
Copyright © 2023 Supported by SMS2PRO
Property 1=DefaultProperty 1=Default (1)Property 1=Default (2)Property 1=Default (3)Property 1=Default (4)Property 1=Default (5)Property 1=Default (6)
crossmenu