
ชื่อผู้ส่ง (Sender Name) เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าต้องเห็นเมื่อได้รับข้อความ SMS และเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะ “กดอ่าน” หรือจะ “เลื่อนผ่านไป” การตั้งชื่อผู้ส่งให้ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของชื่อเท่านั้น แต่คือ “ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์” ในระยะยาว
ช่วยให้ผู้รับมั่นใจว่าข้อความมาจากแหล่งที่ถูกต้อง เช่น ธนาคาร บริษัท หรือองค์กร
หากชื่อผู้ส่งมีความน่าเชื่อถือและชัดเจน ผู้รับมีแนวโน้มที่จะเปิดอ่านมากกว่าข้อความที่มาจากหมายเลขไม่รู้จัก
การใช้ชื่อผู้ส่งที่ได้รับการรับรองช่วยลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่อาจใช้หมายเลขสุ่มส่งข้อความหลอกลวง
สำหรับธุรกิจ การใช้ชื่อผู้ส่งเป็นชื่อบริษัทช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
สามารถใช้ชื่อที่สื่อถึงโปรโมชั่นหรือบริการเฉพาะได้

การขอชื่อผู้ส่ง (Sender Name) ต้องผ่านการตรวจสอบจากโอเปอร์เรเตอร์และกสทช. ซึ่งใช้เวลาอนุมัติหลายวัน หากตั้งชื่อไม่ถูกหลัก อาจถูกตีกลับและต้องยื่นใหม่ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ลองเช็กให้ครบตามขั้นตอนด้านล่างนี้ก่อนส่งทุกครั้ง
1.ใช้ชื่อที่สื่อถึงธุรกิจโดยตรง
ช่วยผู้รับจะรู้ได้ทันทีว่าข้อความมาจากใคร เกี่ยวกับธุรกิจอะไร เช่น
“SMS2PRO” อ่านแล้วรู้ทันทีว่าเกี่ยวกับบริการ SMS
“LOTUSCARS” รู้ได้ทันทีว่าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับรถยนต์
2.ตั้งชื่อให้สั้น และกระชับ อ่านง่าย ยิ่งสั้นยิ่งง่ายต่อการจำ หลีกเลี่ยงชื่อที่ยาวเกินหรือซับซ้อนเกิน เพื่อไม่ให้ลูกค้าเข้าใจผิด
3.ตั้งชื่อให้ดูน่าสนใจ มีลูกเล่น ลองผสมตัวอักษรทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ และตัวเลข เพื่อให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น 7-Eleven, WeChat
การตั้งชื่อผู้ส่ง (Sender Name) ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่าน แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจที่น่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณ SMS2PRO คือผู้ให้บริการรายเดียวที่ให้คุณ สามารถขอชื่อผู้ส่งได้ไม่จำกัด ทุกแพ็กเกจ ครบทั้งคุณภาพ มาตรฐานจากกสทช. และ ราคาคุ้มค่า พร้อมให้บริการ ลงทะเบียนทดลองใช้บริการฟรีได้ทางเว็บไซต์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 02-114-8318 หรือ LINE Official @sms2pro






